.

ขอรับการส่งเสริมการลงทุน

1.วิธีการขอรับการส่งเสริมการลงทุน 
• ผู้สนใจและประสงค์จะขอรับการส่งเสริมการลงทุนจะขอเอกสารเผยแพร่ขอคำแนะนำ ด้านการลงทุน และแบบฟอร์มคำขอรับการส่งเสริม (กกท.01) หรือแบบคำขอสำหรับกิจการบริการ (กกท.01/บริการ) หรือ คำขอรับการส่งเสริมสำหรับกิจการซอฟต์แวร์และพาณิชย์ อิเล็กทรอนิกส์ (กกท.01/ซอฟต์แวร์) ได้ที่ศูนย์บริการลงทุนทั้งนี้ เมื่อกรอกคำขอในแบบฟอร์ม เรียบร้อยแล้ว ให้ยื่นคำขอจำนวน 2 ชุด ที่สำนักบริหารการลงทุน 1-4 สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนศูนย์เศรษฐกิจการลงทุนภูมิภาค หรือสำนักงานเศรษฐกิจการลงทุนในต่างประเทศ และทำสำเนาคำขออีก ชุด เพื่อผู้ขอรับการส่งเสริมเก็บไว้เป็นสำเนา

• คำขอรับการส่งเสริมที่มีโครงการลงทุนตั้งแต่ 80-500 ล้านบาท จะต้องยื่นรายงานการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการขอรับ การส่งเสริมการลงทุนที่มีขนาดการลงทุนมากกว่า 80 แต่ไม่เกิน500 ล้านบาท (ราย ละเอียดตามประกาศ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนที่ ป.1 / 2551 ลงวันที่ พฤศจิกายน 2551)
คำขอรับการส่ง เสริมที่มีโครงการลงทุนมากกว่า 500 ล้านบาท จะต้องยื่นรายงานการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ FEASIBILITY STUDY (รายละเอียดตามประกาศ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน 50 / 2534 ลงวันที่ พฤศจิกายน 2534)

• ในกรณีที่ผู้ขอรับการส่งเสริมยังไม่ได้จัดตั้งบริษัท มูลนิธิ หรือสหกรณ์ ผู้ขออาจยื่นคำขอรับการส่งเสริมได้ในนามบุคคลธรมดา แต่ผู้ขอรับการส่งเสริมนั้นจะต้องจัดตั้ง บริษัท มูลนิธิ หรือสหกรณ์ ให้แล้วเสร็จภายใน เดือน นับแต่วันที่ผู้ขอรับการส่งเสริม ได้ตอบรับมติคณะกรรมการให้การส่งเสริมแล้ว

การพิจารณาโครงการที่ขอรับการส่งเสริม
สำนักงานจะพิจารณาคำขอรับการส่งเสริมที่อยู่ใน อำนาจพิจารณาของสำนักงาน สำหรับคำขอรับการส่งเสริมที่มีขนาดการลงทุน ไม่เกิน 80 ล้านบาทให้แล้วเสร็จภายใน 40 วันทำการ คำขอรับการส่งเสริมที่มีขนาดการลงทุนเกินกว่า 80 ล้านบาทและคำขอรับการส่งเสริมที่อยู่ในอำนาจของ คณะอนุกรรมการพิจารณาโครงการให้แล้วเสร็จภายใน 60 วันทำการ และคำขอรับการส่งเสริมที่อยู่ในอำนาจของคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ให้แล้เสร็จภายใน 90 วันทำการ

2.การแจ้งมติอนุมัติหรือไม่อนุมัติการส่งเสริม
หลัง จากคำขอรับการส่งเสริมฯได้ ผ่านการพิจารณาแล้ว สำนักบริหารการลงทุนจะแจ้งมติอนุมัติหรือไม่อนุมัติให้การส่งเสริมแก่ผู้ขอ ให้แล้วเสร็จภายใน 7 วันทำการ

3.การออกบัตรส่งเสริม (ดูแผนผังประกอบ)

ผู้ขอรับการส่งเสริมจะต้องตอบรับมติให้การส่งเสริมภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งมติ หากไม่สามารถตอบรับมติภายในระยะเวลาที่กำหนด สามารถขอขยายเวลาตอบรับมติและขอขยายเวลาเพื่อส่ง เอกสารประกอบการออกบัตรส่งเสริมได้ เมื่อตอบรับแล้วจะต้องส่งเอกสารและหลักฐานประกอบการออกบัตรส่งเสริม ตามที่สำนักงานกำหนดไว้ภายใน 180 วัน นับตั้งแต่วันตอบรับมติได้ที่สำนักงานเลขานุการกรม


ประเภทกิจการที่ให้การส่งเสริมการลงทุน 

                              ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน  
                                              ที่ 10 /2552 
           เรื่อง ประเภท ขนาด และเงื่อนไขของกิจการที่ให้การส่งเสริมการลงทุน  


โดยที่เป็นการสมควรกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับประเภทกิจการที่ให้การส่งเสริม
ใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 16 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน
พ.ศ. 2520 คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน จึงออกประกาศไว้ดังต่อไปนี้
            1. ให้ยกเลิกประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลง ทุนที่ 2/2543 ลงวันที่ 1 สิงหาคม
พ.ศ. 2543 เรื่อง ประเภท ขนาด และเงื่อนไขของกิจการที่จะให้การส่งเสริมการลงทุน
            2. ให้ประเภทกิจการตามที่กำหนดไว้ในบัญชี ประเภทกิจการท้ายประกาศนี้เป็นกิจการ
ที่ให้การส่งเสริมการลงทุน
            3. ให้กำหนดขนาดการลงทุนของแต่ละโครงการขั้น ต่ำไม่น้อยกว่า 1 ล้านบาท
(ไม่รวมค่าที่ดินและทุนหมุนเวียน) สำหรับทุกประเภทกิจการที่ให้การส่งเสริมการลงทุน
             4. ให้กำหนดเงื่อนไขสำหรับโครงการที่ได้รับ การส่งเสริมการลงทุนตามที่กำหนดใน
แต่ละประเภทกิจการนั้น
             5. สิทธิและประโยชน์สำหรับโครงการที่ได้รับ การส่งเสริมการลงทุนให้เป็นไปตาม
ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนที่ 1/2543 ลงวันที่ 1 สิงหาคมพ.ศ.2543 เรื่อง นโยบาย
และหลักเกณฑ์การส่งเสริมการลงทุน เว้นแต่ที่มีการกำหนดไว้เป็นการเฉพาะในบัญชีท้ายประกาศนี้
6. สำหรับกิจการที่ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ให้ได้รับสิทธิและประโยชน์ดังต่อไปนี้
             6.1 ได้รับยกเว้นอากรขาเข้าสำหรับ เครื่องจักรไม่ว่าจะตั้งอยู่ในเขตใด
             6.2  ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล เป็นระยะเวลา 8 ปี ไม่ว่าจะตั้งอยู่ในเขตใด
             6.3 สิทธิและประโยชน์อื่นให้ได้รับตาม หลักเกณฑ์ประกาศคณะกรรมการ
ส่งเสริมการลงทุนที่ 1/2543 ลงวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2543

7.  สำหรับกิจการที่มีความสำคัญและเป็น ประโยชน์ต่อประเทศเป็นพิเศษให้ได้รับ
สิทธิและประโยชน์ดังต่อไปนี้
             7.1 ได้รับยกเว้นอากรขาเข้าสำหรับ เครื่องจักรไม่ว่าจะตั้งอยู่ในเขตใด
             7.2 ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล เป็นระยะเวลา 8 ปี ไม่ว่าจะตั้งอยู่ใน
เขตใด โดยไม่กำหนดสัดส่วนการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล
             7.3 สิทธิและประโยชน์อื่นให้ได้รับตาม หลักเกณฑ์ประกาศคณะกรรมการ
ส่งเสริมการลงทุนที่ 1/2543 ลงวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2543

8. สำหรับกิจการอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ ไฟฟ้า ให้ได้รับสิทธิและประโยชน์ตาม
ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ที่ 4/2549 ลงวันที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2549 เรื่อง
นโยบายส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า
9. คณะกรรมการอาจประกาศงดให้การส่งเสริมการลง ทุนแก่กิจการที่ปรากฏในบัญชี
ท้ายประกาศนี้ เมื่อเห็นว่ากิจการนั้นหมดความจำเป็นที่จะให้การส่งเสริมการลงทุนต่อไป หรือ
อาจประกาศเพิ่มเติมประเภทกิจการใดๆ ที่คณะกรรมการเห็นสมควรให้การส่งเสริมขึ้นอีก ก็ได้
แม้กิจการนั้นจะไม่ปรากฏในบัญชีแนบท้ายประกาศนี้ก็ตาม
10. ประกาศนี้มีผลใช้บังคับสำหรับคำขอรับการ ส่งเสริมที่ยื่นตั้งแต่วันที่ 14 กันยายน
พ.ศ. 2552 เป็นต้นไป
11. โครงการที่ยื่นคำขอรับการส่งเสริมหรือได้ รับการส่งเสริมการลงทุนก่อนวันที่ 14
กันยายน พ.ศ. 2552 ทุกประเภทกิจการ หากยังไม่ได้ใช้สิทธิและประโยชน์ด้านภาษีอากรก่อน
วันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2552 จะขอเปลี่ยนประเภทกิจการตามที่กำหนดใหม่ และปฏิบัติตาม
เงื่อนไขที่กำหนดใหม่ในประเภทกิจการนั้นๆ ก็ได้ โดยให้ยื่นขอต่อสำนักงานภายในวันที่ 30
ธันวาคม พ.ศ. 2552
12. บรรดาประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนทุก ฉบับที่อ้างถึงประกาศคณะกรรมการ
ส่งเสริมการลงทุนที่ 2/2543 ลงวันที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2543 เรื่อง ประเภท ขนาด และเงื่อนไข
ของกิจการที่จะให้การส่งเสริมการลงทุน ให้ถือว่าเป็นการอ้างถึงประกาศฉบับนี้

ประกาศ ณ วันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2552

---------------------------------------------

บัญชีประเภทกิจการที่ให้การส่งเสริมการลงทุน (ข้อมูลปรับปรุงล่าสุดเมื่อ ธันวาคม 2552)
หมวด 1 เกษตรกรรม และผลิตผลจากการเกษตร
หมวด 2 เหมือง แร่ เซรามิกส์ และโลหะขั้นมูลฐาน
หมวด 3 อุตสาหกรรม เบา
หมวด 4 ผลิตภัณฑ์ โลหะ เครื่องจักร และอุปกรณ์ขนส่ง
หมวด 5 อุตสาหกรรม อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า
หมวด 6 เคมี ภัณฑ์ กระดาษ และพลาสติก
หมวด 7 กิจการบริการและสาธารณูปโภค

ที่มา : สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน www.boi.go.th
ป้ายกำกับ : BOI-Advisor 094-478-3987