ตามประกาศ สกท ที่ ป.12/2544 โครงการที่ได้รับส่งเสริมการลงทุนตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2544 เป็นต้นไป จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ตามมาตรา 31 โดยกำหนดวงเงินยกเว้นภาษีเงินได้ไม่เกินร้อยละ 100 ของเงินลงทุน โดยในเบื้องต้นจะกำหนดให้ตามขนาดการลงทุนในคำขอรับส่งเสริม แต่จะปรับเปลี่ยนวงเงินในวันเปิดดำเนินการ
ค่าใช้จ่ายที่นับเป็นขนาดการลงทุนซึ่งใช้เป็นฐานในการคำนวณวงเงินยกเว้นภาษีเงินได้ จะแตกต่างกันในกรณีโครงการริเริ่ม และโครงการขยาย ดังนี้
รายการค่าใช้จ่าย | โครงการริเริ่ม | โครงการขยาย | |
สำนักงาน / โรงงาน | ซื้อ / ก่อสร้างใหม่ | O | O |
เช่า (สัญญามากกว่า 3 ปี) | O | O | |
ใช้อาคารเดิมที่ไม่ได้ใช้งานมาก่อน | O | O | |
ใช้ร่วมกับกิจการเดิม | X | X | |
เครื่องจักร | ซื้อ / เช่าซื้อ | O | O |
เช่า (สัญญาเกินกว่า 1 ปี) | O | O | |
บริษัทแม่ให้มา | O | O | |
ค่าใช้จ่ายก่อนเปิดดำเนินการ | ค่าจัดตั้งบรษัท อื่นๆ | O | X |
ทรัพย์สินอื่นๆ | อุปกรณ์สำนักงาน และยานพาหนะ | O | X |
ค่าที่ดิน | X | X | |
ค่าชาการ | X | X | |
เงินทุนหมุนเวียน | X | X |
- ค่าก่อสร้างอาคาร
- กรณีก่อสร้างเอง
ได้แก่ ค่าก่อสร้างโรงงานและอาคารสำนักงาน โดยรวมถึงค่าสาธารณูปโภค สิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ รวมถึงค่าปรับปรุงและต่อเติมอาคารเดิมด้วย
ใช้ราคาทุนที่ได้มา ดังนี้- กรณีว่าจ้างบริษัทรับเหมาก่อสร้าง
ต้นทุนคือจำนวนเงินที่กิจการตกลงตามสัญญาก่อสร้าง - กรณีที่ก่อสร้างเอง
การคำนวณต้นทุนเริ่มตั้งแต่ค่าเขียนแบบ ค่าธรรมเนียมขออนุญาต ค่าวัสดุก่อสร้าง ค่าแรง ค่าทำฐานราก จนกระทั่งอาคาร/โรงงานเสร็จ
- กรณีว่าจ้างบริษัทรับเหมาก่อสร้าง
- กรณีซื้ออาคาร
ใช้มูลค่าตามสัญญาซื้อขาย - กรณีใช้อาคารที่มีอยู่เดิมโดยเป็นอาคารที่ไม่ได้ใช้งานมาก่อน
ใช้ราคาสุทธิตามบัญชีของงวดบัญชีก่อนยื่นคำขอรับการส่งเสริม - กรณีเช่าอาคารโรงงาน
ใช้ค่าเช่าตามสัญญาเช่า ซึ่งต้องมีระยะเวลาการเช่ามากกว่า 3 ปี และจดทะเบียนกับสำนักงานที่ดินแล้ว
- กรณีก่อสร้างเอง
- ค่าเครื่องจักร ค่าติดตั้ง ค่าทดลองเครื่อง
หมายถึง เครื่องจักรและอุปกรณ์ที่เป็นไปตามคำจำกัดความตามมาตรา 4 ของพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. 2520 และประกาศ สกท ที่ ป.1/2546 ซึ่งต้องมีใช้อยู่ในโครงการนั้นจริงในวันเปิดดำเนินการ- กรณีซื้อเครื่องจักร
ใช้ราคาทุน / ราคาที่ได้มาของค่าเครื่องจักร ค่าติดตั้ง ค่าทดลองเครื่อง ค่าวิชาการที่รวมอยู่ในต้นทุนเครื่องจักร เช่น ค่าวิศวการ ค่าออกแบบ และในกรณีที่ได้รับส่งเสริมในกิจการซอฟต์แวร์หรือกิจการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ให้รวมถึงค่าเครื่องคอมพิวเตอร์และโปรแกรมด้วย- กรณีบันทึกบัญชีเป็นทรัพย์สิน
ต้องแสดงไว้ในงบการเงินที่มีผู้สอบบัญชีตรวจสอบรับรองการมีอยู่จริงของสินทรัพย์ในรอบบัญชีนั้น - กรณีบันทึกบัญชีเป็นค่าใช้จ่าย หรือไม่ได้บันทึกบัญชีเป็นทรัพย์สิน
ต้องแนบเอกสารหลักฐานการซื้อขาย
- กรณีบันทึกบัญชีเป็นทรัพย์สิน
- กรณีเช่าซื้อและเช่าแบบลีสซิ่ง
ให้ใช้มูลค่าตามสัญญาเช่าซื้อ หรือเช่าแบบลีสซิ่ง โดยบันทึกบัญชีไว้ และจะต้องแนบสัญญาเช่านั้น - กรณีเช่าเครื่องจักร
ให้ใช้มูลค่าตามสัญญาเช่า ซึ่งต้องมีระยะเวลาเช่ามากกว่า 1 ปี โดยบันทึกบัญชีไว้ และจะต้องแนบสัญญาเช่านั้น - กรณีเครื่องจักรที่บริษัทในเครือให้มาโดยไม่คิดค่าตอบแทน และได้ระบุไว้ในคำขอรับการส่งเสริม
ให้ใช้มูลค่าตามบัญชีของบริษัทที่ให้เครื่องจักร โดยใช้อัตราแลกเปลี่ยน ณ วันที่ยื่นขอรับการส่งเสริม และจะต้องแนบเอกสารหลักฐานการนำเข้าเครื่องจักรนั้น - กรณีจำนองเครื่องจักร
ให้ใช้ราคาทุน / ราคาที่ได้มาเช่นเดียวกับเครื่องจักร เช่นเดียวกับกรณีซื้อเครื่องจักร
- กรณีซื้อเครื่องจักร
- ค่าใช้จ่ายก่อนเปิดดำเนินการ
หมายถึง ค่าใช้จ่ายในการจัดตั้งบริษัทใหม่ ได้แก่ ค่าเดินทาง ค่าทนายความ ค่าธรรมเนียม และค่าหนังสือบริคณฑ์สนธิ
ใช้มูลค่าที่บันทึกบัญชี และเอกสารหลักฐานนั้น - มูลค่าทรัพย์สินอื่นๆ
- ค่าอุปกรณ์สำนักงาน และยานพาหนะ
ให้นับเฉพาะกรณีขอรับส่งเสริมในนามบริษัทที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่ และกรณีคำขอโยกย้ายสถานประกอบการเท่านั้น โดยใช้มูลค่าที่บันทึกบัญชี และเอกสารหลักฐานนั้น - ค่าสัมปทาน ค่าประทานบัตร และสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรธรรมชาติที่จ่ายให้กับรัฐ
ใช้มูลค่าที่บันทึกบัญชี และเอกสารหลักฐานนั้น
- ค่าอุปกรณ์สำนักงาน และยานพาหนะ
แต่ทั้งนี้ ในกรณีที่เป็นโครงการโยกย้ายสถานประกอบการ จะไม่อนุญาตให้นำมูลค่าเครื่องจักรที่โยกย้ายจากสถานประกอบการเดิม มาคำนวณเป็นมูลค่าการลงทุนของโครงการในที่ตั้งแห่งใหม่
เอกสารประกอบการตรวจสอบ
- ทะเบียนทรัพย์สิน
- หลักฐานประกอบการซื้อขายและการชำระเงิน เช่น ใบส่งของ ใบกำกับสินค้า ใบขนสินค้าขาเข้า ใบเสร็จรับเงิน
- งบการเงินปีล่าสุดที่ผู้สอบบัญชีรับรอง
- ภงด.50 สำหรับปีที่บริษัทได้ใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลไปแล้ว
- สัญญาเช่าทรัพย์สิน เช่น สัญญาเช่าอาคาร สัญญาเช่าเครื่องจักร
แนวทางการตรวจสอบ
- จะตรวจสอบมูลค่าการลงทุนโดยพิจารณาจากงบการเงินในหมวดทรัพย์สิน
- กรณีที่บริษัทมีทรัพย์สินเพิ่มเติมจากวันปิดงบการเงินจนถึงวันเปิดดำเนินการ จะตรวจสอบเอกสารสำคัญอื่นเพิ่มเติม เช่น ใบส่งของ ใบเสร็จรับเงิน ใบขนสินค้าขาเข้า
- เครื่องจักรตามทะเบียนทรัพย์สิน จะต้องไม่เป็นเครื่องจักรที่นำเข้าหรือซื้อมาก่อนวันที่ยื่นคำขอรับการส่งเสริม
กรณีที่นำเข้าหรือซื้อมาก่อนวันที่ยื่นคำขอ จะต้องระบุไว้ในขั้นยื่นคำขอรับการส่งเสริมด้วย แต่หากไม่ได้ระบุไว้ จะต้องพิสูจน์ให้ได้ว่า เครื่องจักรดังกล่าวยังไม่เคยก่อให้เกิดรายได้ก่อนวันที่ยื่นคำขอรับการส่งเสริม - เครื่องจักรตามทะเบียนทรัพย์สิน จะต้องไม่เป็นเครื่องจักรเก่าใช้แล้ว เว้นแต่จะมีเงื่อนไขอนุญาตให้ใช้เครื่องจักรเก่าใช้แล้วได้
- วันที่เปิดดำเนินการ คือ
- วันครบกำหนดเปิดดำเนินการตามที่ระบุในบัตรส่งเสริม หรือ
- วันที่ได้รับอนุญาตให้ขยายเวลาเปิดดำเนินการ หรือ
- วันที่บริษัทพร้อมเปิดดำเนินการ แต่ต้องไม่หลังจากวันครบกำหนดเปิดดำเนินการ
- มูลค่าทรัพย์สินที่จะนำมาคำนวณการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล จะต้องนำเข้าหรือซื้อมาก่อนวันที่เปิดดำเนินการเท่านั้น ดังนั้น หากบริษัทปฏิบัติตามเงื่อนไขให้เป็นไปตามโครงการได้ภายหลังจากวันที่ครบกำหนดเปิดดำเนินการ จะคำนวณมูลค่าการลงทุนตามวันที่ครบกำหนดเปิดดำเนินการเท่านั้น
- กรณีที่บริษัทได้รับส่งเสริมหลายโครงการ มูลค่าเงินลงทุนที่ตรวจสอบจะต้องเป็นมูลค่าการลงทุนของแต่ละโครงการเท่านั้น
------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ป้ายกำกับ : BOI-Advisor
ติอต่อ คุณฉลาด รักรู้
มือถือ : 094-478-3987
Email : winyour2011@gmail.com Website : boiadvisor.blogspot.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น